นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

PRIVACY POLICY

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

1. หลักการและเหตุผล
บริษัท เอ็มดีซียู เมดโนเวชั่น จํากัด ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท” ได้ตระหนักและให้ความสําคัญกับข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) ของเจ้าของข้อมูล เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎเกณฑ์ที่กําหนด บริษัทจึงได้จัดระบบเพื่อควบคุมดูแลอย่างเข้มงวดและรัดกุม เพื่อให้ ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลปลอดภัย มีเสถียรภาพ และ การประมวลผลข้อมูลเป็นไปอย่างโปร่งใส

 

2. ขอบเขตการใช้
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบถึงแนวทางปฏิบัติของบริษัทในส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล เช่น การเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่างๆ ของเจ้าของข้อมูล เป็นต้น นโยบายฉบับนี้มีผลใช้บังคับกับทุกกิจกรรมการดําเนินงานของบริษัทที่เกี่ยวข้อง กับข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้นว่า ประเภทและรูปแบบของข้อมูลที่จัดเก็บ ช่องทางการจัดเก็บข้อมูล วัตถุประสงค์ของบริษัทในการเก็บรวบรวมข้อมูล การนําข้อมูลส่วน บุคคลไปใช้ การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้กับบุคคลอื่น ตลอดจนวิธีการที่บริษัทดําเนินการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล

 

3. วัตถุประสงค์
เพื่อให้เจ้าของข้อมูลได้รับทราบถึงนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ขึ้น

 

4. ในนโยบายนี้
4.1 "บริษัท“ หมายความว่า บริษัท เอ็มดีซียู เมดโนเวชั่น จํากัด และบริษัทย่อย
4.2 "บริษัทย่อย“ หมายความว่า บริษัทลูก บริษัทในเครือ บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน หรือ บริษัทที่อยู่ภายใต้การควบคุมเดียวกัน
4.3 "ข้อมูลส่วนบุคคล“ หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทําให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
4.4 "เจ้าของข้อมูล“ หมายความว่า บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้นว่า ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ คู่ค้า ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือ Mobile Application ของบริษัท ผู้บริหารหรือพนักงานของบริษัท รวมถึงบุคคลใดที่มีนิติสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับ บริษัท
4.5 "บุคคล“ หมายความว่า บุคคลธรรมดา
4.6 "การเก็บรวบรวม“ หมายความว่า การทําให้ได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล
4.7 "การประมวลผลข้อมูล“ หมายความว่า การดําเนินการใด ๆ ซึ่งกระทําต่อข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บรวบรวมการบันทึก การจัดระบบ การเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย การเปลี่ยนแปลง หรือการกระทําอื่นใดซึ่งทําให้เกิดความพร้อมใช้งาน หรือการผสมเข้าด้วยกัน การลบ การทําลาย

 

5. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
5.1 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทําภายใต้วัตถุประสงค์และเพียงเท่าที่จําเป็นตามกรอบวัตถุประสงค์หรือเพื่อประโยชน์ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับ วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม โดยจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบและขอความยินยอมก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงรายละเอียดดังต่อไปนี้
5.1.1 วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม
เพื่อการดําเนินงานตามวัตถุประสงค์ของบริษัทในการให้บริการ ปรับปรุงคุณภาพเครือข่าย การคํานวณและการเรียกเก็บค่าใช้บริการ การศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัทให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล เพื่อเสนอสิทธิประโยชน์ตามความสนใจของเจ้าของข้อมูล เพื่อการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อการดําเนินการเกี่ยวกับการพนักงาน เพื่อการกระทำอื่นที่เจ้าของข้อมูลให้ความยินยอม หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อยกเว้นของกฎหมาย หากมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม บริษัทจะประกาศให้เจ้าของข้อมูลทราบโดยเร็ว
5.1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ทําการเก็บรวบรวมและระยะเวลาในการเก็บรวบรวม
บริษัทจะทําการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล เช่น ชื่อ สกุล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด เพศ ประวัติการศึกษา หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เลขประจําตัวประชาชน ข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต เลขบัญชีธนาคารหรือข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการธนาคารหรือการชําระเงิน หมายเลขไอพี หมายเลขบริการ Cookies MAC Address บัญชีผู้ใช้ ข้อมูลการใช้บริการ พฤติกรรมการใช้บริการ ความพึงพอใจต่อการใช้บริการ บันทึกการติดต่อสื่อสารของเจ้าของข้อมูลกับบริษัทและข้อมูลอื่นใดที่อาจเกิดขึ้นในขณะ ที่ใช้บริการกับบริษัท เป็นต้น บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลภายในระยะเวลาที่จําเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลและตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยมีมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสมควรเพื่อป้องกันการเข้าถึง การรวบรวม การใช้ การเปิดเผย การทำสำเนา การดัดแปลง การกำจัดข้อมูล หรือความเสี่ยงในลักษณะเดียวกันโดยไม่ได้รับ อนุญาต เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บ หรือบริษัทไม่มีสิทธิในการจัดเก็บ หรือไม่สามารถอ้างฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลแล้ว บริษัทจะดําเนินการลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นด้วยวิธีการที่เหมาะสมและเป็นไปตามกฎหมายต่อไป
5.1.3 กรณีที่เจ้าของข้อมูลต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา หรือเพื่อเข้าทําสัญญา บริษัทจะแจ้งถึงผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ ข้อมูลส่วนบุคคลให้เจ้าของข้อมูลทราบด้วย
5.1.4 บริษัทอาจจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมต่อบุคคลหรือหน่วยงานได้ เช่น การเปิดเผยข้อมูลตามคำสั่งศาล พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือกฎหมายให้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้ หรือเพื่อความมั่นคง หรือเพื่อการให้บริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น แต่ทั้งนี้ต้องเป็นการเปิดเผยเพียงเท่าที่จําเป็นเท่านั้น
5.1.5 สิทธิของเจ้าของข้อมูล เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอให้ดําเนินการได้ ดังต่อไปนี้
(1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัท
(2) สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตน
(3) สิทธิในการขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ทันสมัย และสมบูรณ์อยู่เสมอ
(4) สิทธิในการขอให้ลบทําลายข้อมูลส่วนบุคคลหรือทําให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
(5) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
(6) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
(7) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลกําหนด เว้นแต่เป็นการขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งกฎหมาย การกระทบต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร กระทบต่อเศรษฐกิจและการพาณิชย์ของประเทศ มีผลต่อการสืบสวนสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล หรือกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น โดยเจ้าของข้อมูลสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ได้ตามช่องทางที่บริษัทกําหนด ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลไม่จําเป็นต้องเสียใช้จ่ายใด ๆ ในการดําเนินตามสิทธิข้างต้น บริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคําร้องขอของเจ้าของข้อมูลภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคําร้อง ขอดังกล่าว
5.2 บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลโดยตรง เมื่อเจ้าของข้อมูลให้ความยินยอมมาอย่างสมัครใจ โดยวิธีการใดวิธีการหนึ่งดังต่อไปนี้
5.2.1 แบบคําขอใช้บริการ หรือขั้นตอนการยื่นคําร้องขอใช้สิทธิต่าง ๆ
5.2.2 การทําแบบสอบถาม หรือการโต้ตอบทางอีเมล
5.2.3 ทาง Website หรือ Mobile Application ของบริษัท
5.2.4 ทางข้อความสั้น (SMS)
5.2.5 ช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ระหว่างเจ้าของข้อมูลกับบริษัทตามแบบวิธีของบริษัท
5.3 บริษัทมีนโยบายคุกกี้ (Cookies) ตามที่บริษัทกําหนด (Cookies Link)
5.4 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ทางบริษัทจัดเก็บบางส่วนอาจมีลักษณะอ่อนไหว บริษัทจะแจ้งขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง เป็นต้นว่า เชื้อชาติ สถานะการสมรส ความเชื่อทางศาสนา ปรัชญา ความคิดเห็นทางการเมือง ข้อมูลด้านสุขภาพ พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ เมื่อมีความจําเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
5.5 กรณีที่เจ้าของข้อมูลให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น คู่สมรส สมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อน เป็นต้น แก่บริษัท ตัวอย่างเช่น อาจระบุเป็นที่อยู่ ติดต่อฉุกเฉิน เจ้าของข้อมูลจะต้องรับรองและรับประกันว่า เจ้าของข้อมูลได้รับความยินยอมให้มีการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ตามที่ระบุไว้ ในนโยบายนี้
5.6 กรณีที่ลักษณะของการบริการรวมถึงผลิตภัณฑ์ของบริษัทอาจต้องทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ในกรณีดังกล่าวนี้ บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ ซึ่งรวมถึงการขอความ ยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้ใช้อำนาจปกครองตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

 

6. การใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
การใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือเป็นการจําเป็นเพื่อประโยชน์ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ทั้งนี้ บุคคล หน่วยงาน ที่บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล โดยจําเป็นต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปยังบุคคล หรือหน่วยงาน ภายนอกใด ๆ เช่น คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือหน่วยงานด้านความมั่นคง เป็นต้น ทั้งนี้ให้ดําเนินการเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือเชื่อโดยสุจริตว่ากฎหมายได้กำหนดให้กระทำเพียงเท่าที่จําเป็นเท่านั้น

 

7. บริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนหรือในขณะทําการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ในกรณีดังนี้
7.1 เพื่อประโยชน์ที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล
7.2 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลหรือบุคคลอื่น
7.3 เพื่อปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อใช้ในการดําเนินการตามคําขอของเจ้าของข้อมูลก่อนเข้าทําสัญญานั้น
7.4 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดําเนินการภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อํานาจรัฐ
7.5 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายที่ครอบคลุมในกิจการของบริษัท
7.6 เป็นการปฏิบัติตามคําสั่งศาล หรือที่กฎหมายกําหนด เช่น พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกํากับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พระราชบัญญัติ การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นต้น
7.7 เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว

 

8. คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะดําเนินการให้คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมนั้นให้ถูกต้องเป็นปัจจุบันตามที่เจ้าของข้อมูลแจ้งและไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

 

9. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย
เพื่อประโยชน์ในการรักษาความลับ ความถูกต้องครบถ้วน และความพร้อมใช้ของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ดังนี้
9.1 บริษัทป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ ดัดแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต
9.2 บริษัทจำกัดคนเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลไว้สำหรับพนักงานที่จำเป็นต้องทราบข้อมูลนั้น เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลให้ โดยพนักงานเหล่านั้นต้องปฏิบัติตามข้อ กำหนดการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับตามสัญญาอย่างเข้มงวด
9.3 บริษัทจัดให้มีมาตรการการยืนยันตัวตน (Authentication) กําหนดสิทธิ (Authorization) และการบันทึกกิจกรรม (Accounting) ในการเข้าถึง การใช้ การ เปิดเผย การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศของบริษัทอย่างเคร่งครัด
9.4 ในกรณีที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ รวมถึงการนําข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บบนฐานข้อมูลในระบบอื่นใด ซึ่งผู้ให้บริการรับโอนข้อมูลหรือบริการเก็บข้อมูลอยู่ต่างประเทศนั้น บริษัทจะจัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือเทียบเท่ากับมาตรการตามนโยบายนี้ เว้นแต่เป็นไปตามกฎหมาย หรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
9.5 ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของบริษัท จนเป็นเหตุให้มีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลสู่สาธารณะ บริษัทจะดําเนินการแจ้งเจ้าของข้อมูลให้ทราบโดยเร็ว รวมทั้งแจ้งแผนการเยียวยาความเสียหายจากการละเมิดหรือรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลสู่สาธารณะ ในกรณีที่เกิดจากความบกพร่องของบริษัทที่ส่งผลต่อสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทจะไม่รับผิดชอบในกรณีความเสียหายใด ๆ อันเกิดจากการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลที่สาม รวมถึงการละเลย หรือเพิกเฉยการออกจากระบบ (Log Out) ที่เจ้าของข้อมูลได้เข้าใช้งาน โดยการกระทําของเจ้าของข้อมูลหรือบุคคลอื่นซึ่งได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
9.6 บริษัทมีการดําเนินการสอบทานและประเมินประสิทธิภาพของระบบคอมพิวเตอร์เพื่อทําการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลให้มีประสิทธิภาพ

 

10. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ Website อื่น
นโยบายฉบับนี้ ใช้เฉพาะสําหรับการให้บริการของบริษัทและการใช้งาน Website และ Mobile Application ของบริษัทเท่านั้น หากเจ้าของข้อมูลได้เยี่ยมชม Website หรือเข้าใช้ Mobile Application อื่น (แม้จะผ่านช่องทางใน Website หรือ Mobile Application ของบริษัทก็ตาม) บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการปฏิบัติเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้โดย Website อื่น เจ้าของข้อมูลจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏใน Website หรือ Mobile Application นั้น ๆ แยกต่างหากจากของบริษัท

 

11. ความรับผิดชอบของบุคคล
บริษัทกําหนดให้พนักงานหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ต้องให้ความสําคัญ และรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้อย่างเคร่งครัด โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทําหน้าที่กํากับดูแลภาพรวมตามนโยบายให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิผล

 

12. การทบทวนนโยบาย
บริษัทจะทําการทบทวนนโยบายนี้เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องหรือในกรณีที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ บริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบด้วยการ Update ข้อมูลลงใน Website ของบริษัทโดยเร็วที่สุด โดย ถือว่าเจ้าของข้อมูลยอมรับนโยบายที่มีการทบทวนหรือเปลี่ยนแปลงนั้นแล้ว ทั้งนี้ บริษัทจะไม่แจ้งการทบทวนหรือเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้เจ้าของข้อมูลทราบเป็นราย บุคคล ปัจจุบันนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ถูกทบทวนครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564

 

13. หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อ:
บริษัท เอ็มดีซียู เมดโนเวชั่น จํากัด
เลขที่ 1873 ห้อง 203 อาคารอานันทมหิดล ชั้น 2 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนพระราม 4 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
บริษัทจะพยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ไขข้อกังวลและข้อมูลที่ท่านแจ้งมายังบริษัท